Thursday, November 22, 2007

ทำไมทองแพง ทองแพงแล้วทำไม (1)

ถ้าคุณรู้จักปุ่ม power ที่โทรทัศน์ แล้วเผอิญว่านั่งกระดิกเท่้ากดรีโมท ไปเจอเอาข่าวเศรษฐกิจ ที่มักจะชอบไปสัมภาษณ์นายกสมาคมค้าทองคำ ว่าทำไมทองแพง แล้วแนวโน้มจะเป็นอย่างไร

นายกฯ ท่านก็จะกรุณาอธิบายอย่างยาวเหยียด พร้อมกับวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำจะไปในทิศทางใด
(แต่น่าแปลกที่ราคามักจะสวนกับคำพูดของนายกฯ ในวันต่อๆมา)

เคยนึกสงสัยมั๊ยว่า ทำไมทองคำถึงมีบทบาทต่อชีวิตเรา และอะไรเป็นปัจจัยกำหนดราคาทองคำ

พวกที่คลุกคลีกับทองคำ นอกจากพระสังข์ที่ชุบตัวในบ่อแล้ว ก็จะเป็นมนุษย์โลกที่ชอบเก็งเอากำไรจากการซื้อขายทองคำแท่ง(gold bullion) และพวกมนุษย์ที่รักสวยงามหา utility จากการซื้อหาทองรูปพรรณ(ornament) มาประดับร่างกายไล่มาตั้งแต่หัวจรดปลายนิ้วก้อย

มนุษย์พวกแรกนั้นชอบจะซื้อหาทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร ซื้อเมื่อทองลง ขายเมื่อทองแพง ซึ่งถ้าพูดแต่กรณีประเทศไทย ก็จะพบว่ามีการซื้อขายกันในสองแบบ คือ ซื้อขายทองคำกันจริงๆ เวลาซื้อก็จะหอบเงินสดหรือโอนเงิน แล้วก็จะได้ทองคำแท่งหนักๆ เอามานอนกอดเล่นที่บ้านอย่างสบายใจ ส่วนอีกแบบเป็นการซื้อขายโดยใช้กระดาษ คือเอาเงินมา เอากระดาษไปแทนทองคำ เวลาจะขายก็ง่ายดาย โทรศัพท์สั่งขายไม่ต้องหอบทองไปมา
อย่าไรก็ตามดูเหมือน วิธีแรกจะเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะว่า ผู้บริโภคยังคงคิดว่า การได้ทองคำจริงๆมาไว้กับตัวดูจะอุ่นใจกว่า จะขายที่ไหนกับใครจะสะดวก ส่วนซื้อขายกระดาษนั้น นอกจากจะต้องขายกับร้านที่ซื้อมาอย่างเดียวแล้ว ยังจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงของความไว้เนื้อเชื่อใจของร้านด้วย

ผู้บริโภคอีกกลุ่ม ถือว่าเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่กว่า พวกนักเก็งกำไร แต่ปริมาณการซื้อแต่ละครั้งนั้นไม่มากมายเท่ากลุ่มข้างบนนั่น ผู้บริโภคพวกนี้จะมักซื้อทีละ 1 สลึง 2 สลึง 3 สลึง 1 บาท หรือถ้าซื้อไปเพื่อการอื่น เช่น แต่งงาน ก็จะไม่เกิิน 10 หรือ 20 บาท


ผู้บริโภคทั้งสองกลุ่มนี้ ตอบสนองต่อราคาแตกต่างกัน เนื่องเพราะประโยชน์ที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงของราคาต่างกันนั่นเอง

ราคาทองคำนั้นจะประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ อาจจะเป็นรายวัน หรือ ตามการเปลี่ยนแปลง แล้วแต่ความผันผวน สมาคมฯจะประกาศประมาณ 9.15 a.m. ของทุกวัน จะเป็นราคารับซื้อและราคาขายทองคำแท่ง ซึ่งจะมีส่วนต่างคือ 100 บาท เช่น ถ้าทองคำแท่งวันนี้ รับซื้อ 10,000 บาท ราคาขายก็จะเป็น 10,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณนั้นก็ต้องบวกค่ากำเหน็จหรือค่าแรง เข้าไปด้วยตามแต่ลวดลายที่ซื้อกัน

เมื่อราคาทองคำเพิ่มขึ้น ตามกฎของอุปสงค์ มนุษย์ก็มีความต้องการซื้อลดลง แต่ มนุษย์เก็งกำไรจะมีความยืดหยุ่นต่อราคา สูงกว่า อธิบายง่ายๆก็คือ เมื่อทองคำแพงขึ้นแม้จะเพียงนิดเดียว นักเก็งกำไรจะหยุดดูสถานการณ์ เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อทองคำในราคาที่แพง
ในขณะที่ ผู้บริโภค(จริงๆ) ซึ่งมีความจำเป็นมากกว่า -จำเป็นเพื่อใช้ในงานต่างๆ- ดม้ทองจะแพงขึ้นไปมากน้อยเท่าไร ความต้องการซื้อก็ไมไ่ด้ลดลงมาก คือ ไม่ได้ไม่ซื้อเลย แต่อาจจะซื้อในปริมาณที่ลดลง

(ไม่แน่ใจว่ามี paper มายืนยันเรื่องความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาของผู้บริโภคทองคำแท่ง หรือยัง ที่เขียนมานี่เป็นการสังเกตล้วนๆ อย่าเอาไปอ้างอิง)


แล้วอะไรเป็นตัวกำหนดราคาทองคำ
ไว้มาว่ากันยาวๆตอนหน้าดีกว่า

2 Comments:

At Sunday, November 25, 2007 3:35:00 PM, Anonymous Anonymous said...

กะจะเอาไปออกข้อสอบเด็กพอดี
ออกดีไหมเนี่ย...อ้างว่าจะผู้อยู่ในวงการค้าทอง
อิอิ

 
At Saturday, March 07, 2009 1:17:00 AM, Anonymous Anonymous said...

^__^

 

Post a Comment

<< Home