Sunday, August 27, 2006

ย่ำแดนมังกร(10) :LoWu สู่ ผีชิว ผีชิวๆ

หายไปเกือบเดือน ก็มัวแต่ไปสาละวนกับงานตัวเอง
ก็เลยไม่ค่อยจะมีเวลาหรืออารมณ์มานั่งเขียนเท่าๆไร เสียดายอยู่นิด
ที่อัพรูปไม่ค่อยจะติด ยังไงก็ช่วยติดตามอ่าน แล้วก็ช่วยเป็น Commentator ด้วย

ความเดิมตอนที่แล้ว เราก็มาถึงเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 22 oct.
พี่ศิลป์ ไกด์หน้าเหมือนเพื่อนผม ก็มายืนรอพวกเราตามที่นัดหมายกันเอาไว้ คือ หน้าร้านขายยาทางเข้าห้าง ก็ธรรมดาล่ะครับ
ก็ต้องเอาของมาอวดโฉมกันซะหน่อยล่ะว่าไปซื้ออะไรมากัน ดูเหมือนว่า คอนอื่นๆจะ amaze กับของที่พวกผมซื้อมาเหลือเกินเพราะว่า ช่างมากมายอะไรเช่นนั้น แต่สิ่งสำคัญ คือห้ามถามราคาเพราะว่า ถ้าถามแล้วเกิดอีกคนซื้อถูกกว่าก็จะเจ็บใจไปเปล่าๆปลี้ๆ ฉะนั้น ก็ควรคิดว่าของที่ซื้อนั่น ถูกต้องตาม Willingness to pay แล้ว

สำหรับอาหารเที่ยงวันนี้ ก็กินดีไม่หยอก อย่างว่า เค้าบอกว่า (ไม่รุ้ว่า"เค้า" นี่เป็นใคร) คนไทยไปเที่ยวเมืองจีนทำอยู่ไม่กี่อย่าง คือ

"ชม ชิม ช็อป ฉี่"

ยังไงเรื่องกินก็เรื่องใหญ่ ไม่ใหญ่เฉพาะคนไทยนะ คนจีนนี่นับว่าใหญ่มากเลยทีเดียว

ภัตตาคารที่ไป ชื่ออะไรก็อ่านไม่ออก แต่อยู่ใกล้กับโรงแรม Shanglila ShenZhen โรงแรมนี่ สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาแล้ว ระหว่างทางก็เจอของแปลก วางขาย พวกหนังเสือ และที่แปลกว่านั้นคือ ขอทาน

ขอทานที่นี่ ไม่ใช่มานั่งขอเดี่ยวๆ แต่มากันเป็นพรรคกระยาจก เรียกว่าทำ Cartel ในการขอ ถ้าคุณให้คนหนึ่งอีกคนก็จะได้ประโยชน์คือ คุณต้องให้หมดทุกคนว่างั้นเหอะ น่ากลัวรึป่าว แล้วก็มีทั้งมือไม้ดี พิการมือหงิกง่อย ต้องเอามือเดินเป็น หมา 4 ขาก็มี หะแรกก็ตื่นเต้นกายกรรมขอทานจากเซินเจิ้นไล้เหลี่ยว แต่พอกลับมาเมืองไทย สาด!!! สำเพ็งก็มี คงเป็นแฟรนไชส์ แต่ที่แปลกคือ ถือไม้ตีหมากันทุกคน กะว่า "ให้คนนั้นแล้ว มรึงลองไม่ให้กรูสิ สวย!!!" ฉะนั้นควรจะตัดปัญหา คือ ไม่ให้-เดินหนี-และอย่าพยายามไปมอง แม้แต่ชายตาก็ไม่ควรอย่างยิ่ง

กลับมาที่ข้าวกลางวัน ก็เป็นปกติ ที่อาหรจะเต็มโต๊ะ เหมือนเช่นเคย แล้วก็เช่นเคย ผมกับพี่ก็นั่งกับกลุ่มสาวๆจากเพชรบูรณ์ เหมือนเดิม และเหมือนเดิมคือ กลิ่นบุหรี่ ที่สูบกันได้แม้แต่ในห้องแอร์

เคยมีการออกกฎหมายในเมืองจีน ห้ามสูบบุหรี่ในภัตตาคารที่ติดแอร์ ผลปรากฎว่า คนจีนให้ความร่วมมืออย่างดี คือไม่สูบบุหรี่ และก็ไม่เข้าไปนั่งกินภัตตาคารที่ติดแอร์ด้วย เวง!! เดือดร้อนผู้ประกอบการ ก็เลยต้องแก้กฎหมายเหมือนเดิม ก็เลยเข้าสู่อีหรอบเดิม

"สวรรค์บนดินที่ซูโจว สวรรค์ในปากที่กวางโจว"

ก็แปลว่า รสชาติอาหารที่เลิศรสที่สุดต้องอยู่ที่กว่างโจว แต่ที่นี่เซินเจิ้น ก็ต้องบอกว่า พอแดกได้ล่ะครับ อาหารเป็นอาหารชุด คือ

1. ซุป เสริฟก่อนอาหาร รสชาติเหมือนกินน้ำล้างเท้า รสชาติแบบสนิทมาก

2-3-4 ก็จะเป็น กุ้งตัวเล็กๆ คาดว่าจะเอาไปต้ม แล้วก็ ChaoCai คือผัดผัก เหมือนกันทุกมื้อเลย อาหารขายดีก็เป็นไข่เจียวธรรมดาๆนี่เอง แล้วรสชาติก็จะจืดๆ ดังนั้น หัวหน้าทัวร์คุณเรืองสิทธิ์ ก็จัดการผสมพริกป่นกับน้ำปลาและมะนาวให้กับทุกโต๊ะ

จริงๆแล้วเมืองจีนนี่เค้าเข้มงวดเรื่อง การเอาผลไม้ที่มีเมล็ดเข้าเมืองมาก คือห้ามทุกชนิด ถ้าพบจับปรับนับ"เม็ด" เลยทีเดียว แต่เฮียเรืองสิทธิ์แต่คงเชี่ยว ครั้งที่มากวางเจา พ่อผมเคยบอกให้แม่เอาลำไยมาฝากญาติด้วย เกือบซวยแล้ว สงสัยใครเอามะละกอเข้ามาแบบไม่ได้ขออนุญาต มีหวังโดนปรับอาน

กินข้าวเสร็จแล้ว ตามกำหนดการ เราก็จะไป Windows of The World หรือ หน้าต่างโลก ต่อ แต่ว่า เฮียเรืองแกบอกให้เราไปชอป ต่อ (เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว) แต่ด้วยความที่ของเรายังไม่ครบ (ยังไม่ครบอีกเหรอ??) ก็เลยไปซื้ออีก คราวนี้ เฮียเรืองสิทธิ์แก ฝากเราซื้อของกลับไปให้เมียที่บ้านซัก 4 ใบด้วย เห็นเราต่อเก่งล่ะมั้ง เฮียตอบแทนด้วยการขนของที่ซื้อเมื่อเช้าไปรอที่โรงแรม อ้าว!!

---> ถึงตรงนี้คงจะไม่เล่า ว่าไปซื้ออะไรอีก นอกจากกระเป๋าก็นาฬิกาอะไรพวกนั้น เพราะว่ามันจะซ้ำซากไม่ไปไหนซักที เอาเป็นว่า สรุปว่า ซื้อกันมาอีกเพียบ นั่งคิดว่าตอนขนกลับจะขนยังไง

ที่เสียดายคือ ไม่ได้เดินไปสินค้า IT เลย เค้าว่า"ถูกมาก" แล้วก็"ถูกหลอก" มามากต่อมากแล้ว ก็แค่ผ่านๆ แต่ที่เห็นคือ สามีหน้าผกา ที่เป็นทหาร ไปซื้อ Thumb Drive ขอโซนี่มา ก็แน่ละ มันก็ปลอมแหงๆ แต่ที่ Shock คือ 1 GB ราคา 100 หยวน จนป่านนี้ไม่รู้ว่าถูก หรือจะถูกหลอก รึป่าวก็ไม่รู้

จากนั้นเราก็ขนของไปเก็บที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวไป หน้าต่างโลก แต่ว่าพอลงมารอ ไกด์บอกว่า จะพาไปดูศิลปวัฒธรรมจีน แหม!! อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ถ้าใครไม่เคยไปก็ระวังหน่อย ไม่ได้อันตรายนะ แต่บางทีมันเคลิ้มได้




คือ จะไปทัวร์อะไร ดีขนาดไหน ยังไง ไกด์ท้องถิ่นก็ต้องพาไป ซื้อของ ซื้อตัวปี่เซียะ หรือ ผีชิว ที่ว่านี่แหละ เพราะว่า เค้าต้องไปเซ็นชื่อ ไม่งั้นอาจจะไม่ได้ต่อใบอนุญาต ก็น่าเห็นใจอยู่

จริงๆที่โรงแรมก็มี ผีชิว ขายนะ วางกันสลอนเลย แล้วก็ฉลาดนะ คือซื้อตัวเดียวก็ไม่ได้ ต้องซื้อเป็นคู่ ว่ากันไป ระหว่างรอไกด์พาไปหลอกซื้อของ ก็ลองออกจกา โรงแรมไปซื้อขนมกินร้านของชำ ข้างโรงแรม ก็เรียงรายหลายร้านเลย รอฟันนักท่องเที่ยวอยู่มั้ง ก็เลยเลือกเอาร้านที่น่าไว้ใจตามหลักโหงวเฮ้ง เอาร้านที่คนแก่ผู้หญิงขายล่ะวะ (ไม่รุ้ว่าคิดผิดรึป่าว เพราะผู้หญิงจะขายของเขี้ยวกว่า)

ได้ใช้ภาษาจีนแล้วว่ะ คราวนี้

อยากรู้ว่าน้ำขวดแพงป่าว ไปถึงก็ซื้อน้ำขวดก่อนเลย ก็เปิดตู้แช่ ยกน้ำมาขวดนึง --> 多少钱?? ตั๊วเส่าเฉียน

อาอึ้ม แกก็ตอบเลย "ซานไคว่" งงไปพักนึง อะไรคว่ายๆ คือ kuai นี่เป็นภาษาพูด แต่ หยวนนี่เป็นภาษาเขียน ตอนนั้นยังไม่รู้
แพงขนาดไหนเชียว 3 หยวน 400 ml. ก็แพงอยู่นะ

แล้วก็ลองซื้อ ชาเขียว กินดิ๊ แล้วก็มีขนมเมืองจีน แต่หน้าตาฝรั่งพวก คัสตาร์ดเค้ก อะไรพวกนี้
แล้ว อาอึ้มแกก็ถามว่า
............ ฟังออกแต่ ไหโหย่ว สองตัวแรกนี่แหละ คือคงจะถามว่า ไอ้ซินตึ๊งหน้าตี๋แต่พูดจีนไม่ได้ ลื้อจะเอาอารายอีกมั๊ยวะ?? ก็ตอบว่า 没有 เหมยโหย่ว ไม่มีแล้ว

ก็คิดตังค์มาได้ 二十 เอ้อร์สือหวู่ไคว่ งงแตก นึกไม่ออกกี่หยวนวะ

อาอึ้มแกก็ขำใหญ่เลย ลูกชายด้วย

ก็ไม่โดนคนจีนหลอก เป็นใช้ได้

เอาว่า จะโดนคนขายผีชิว หลอกรึป่าว อันนี้ติดตามอ่านตอนหน้านะครับ

3 Comments:

At Sunday, August 27, 2006 2:01:00 PM, Anonymous Anonymous said...

เรียนภาษาจีน ไปถึง level ไหนแล้วเนี่ยยย

อนาคตไปอยู่เมืองจีนกันมั้ย อิอิ

แต่อยู่เมืองไทยดีก่าเยอะ

 
At Monday, August 28, 2006 9:38:00 AM, Blogger pickmegadance said...

ตรงเพลง ถ้าแก้โค้ดตรงคำว่า FALSE ให้เป็น TRUE มันจะดังอัตโนมัติเลยอ่ะ ไม่ต้องกดเอง

 
At Tuesday, August 29, 2006 12:59:00 PM, Blogger Jan Supawat said...

Xie Xie

 

Post a Comment

<< Home