Monday, July 24, 2006

Lo Wu Center (8)

ความเดิมตอนที่แล้วผมกับพี่สาวและคณะทัวร์ที่รัก หิ้วสังขารกัน จนมาถึง เซินเจิ้น เหยียบถิ่นแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง บรรยากาศ เซินเจิ้น ยามค่ำคืนแทบไม่มีอะไรต่างไปจากเมืองใหญ่ๆ ของโลก มันก็น่าเหลือเชื่อที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ จะกลายมาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอันใหญ่โตโอฬาริกของจีนได้

นโยบายที่ให้แต่คนจบปริญญาตรี-โท-เอก เข้ามาทำงานและหาบ้านพักได้ การห้ามนำรถมอเตอร์ไซค์เข้า บ่งบอกถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้ตัวบทกฎหมายของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติจีนได้เป็นอย่างดี

โรงแรมที่เข้าพักคือ Best Western ซึ่งเป็น MNCs ที่เข้ามาดำเนินกิจการโรงแรมในทั่วทุกหัวระแหงของโลก ประเทศไทยก็มี แล้วก็ไม่เว้นแม้แต่ที่ ShenZhen นี่ด้วยโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมห้าดาว เสียดายที่ลืมถ่าย Certificate มาให้ดู แต่มีคนพูดติดตลกว่า โรงแรมในจีนมาตรฐานสูงมาก บางทีกลายเป็น 9 ดาว เพราะว่านับดาวของธงชาติจีนรวมไปด้วย(ฮา)

จะกี่ดาวก็ช่างเหอะ แต่วันนี้เป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางเอาเสียจริง พอเข้าห้องพักที่ชั้น 17 ได้ สิ่งแรกที่ทำคือ สำรวจหน้าต่าง ดูเมือง เซินเจิ้น ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกวางเจา ถนนสายใหญ่ และตึกสูงๆ เสียงรถวิ่งยังวิ่งรับคนอยู่แม้จะดึกดื่นเพียงไรก็ตาม
ผมรีบอาบน้ำ แล้วนอน เพื่อชาร์จแบตให้กับตัวเอง ไม่วายที่จะปรึกษากับพี่ว่า จะซื้ออะไรที่ไหนกันดีพรุ่งนี้


เสียงบีบแตรรถ ปลุกให้ผมตื่น แม้จะเป็นวันเสาร์ แต่คนที่เซินเจิ้น ก็ตื่นเช้ากันพอดูทีเดียว เค้าไปไหนกัน นั่นน่ะสิ
ผมก็ลงไปตามเวลานัดหมายคือ 8 โมงเช้าที่ ห้องอาหารของโรงแรมอาหารเช้าเป็น American Breakfast ธรรมดานี่เอง มีของกินให้เลือกมากเลยแหละ แต่ผมเลือกที่จะกินไข่ดาวกับฮอทดอกและขนมปังของโปรตุเกสหน้าตาขนมปังมันออกจะประหลาดๆหน่อย
คราวนี้นั่งกินอาหารร่วมโต๊ะกับกรุ๊ปจากนครสวรรค์ก็ตามคาด เจ๊สุ่ย สัมภาษณ์ที่สาวผมใหญ่เลย ว่าแต่งงานยัง? ฯลฯ
แม้จะคุยออกรส แต่รสชาติของอาหารออกจะแปลกลิ้นไปเสียหน่อยเริ่มด้วย ฮอทดอก ที่มันอันเล็กๆ และก็ไม่เอาอ่าวเอาเสียเลย แหวะ
ทำไงได้ ก็ต้องฝืนใจกินน่ะสิ เฮ้อ

กินอาหารแล้วอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาของการตะลุยซื้อของกันซะที
ที่ที่ผมกำลังจะไปชื่อ ว่า LO WU Center ของที่ขายเป็นของปลอมทั้งหมด กระเป๋า นาฬิกา ปากกา เสื้อผ้า อุปกรณ์ IT ฯลฯนอกจากนี้ยังเป็น ชุมทางรถไฟอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นคนจะเยอะมากพี่หัวหน้าทัวร์ เลยแนะนำให้ระวัง พวกล้วงกระเป๋า แล้วก็เงินปลอมด้วย เพราะมันปลอมกันทั้งห้าง

ในกลุ่มก็มีผมแหละ ที่เคยมา เพราะฉะนั้น หลายคนจึงบอกว่า ไปกับ สองคนพี่น้องนี่ดีกว่า แล้วก็ยังถามว่ามันมีอะไรน่าซื้ออีก
พออกจาก โรงแรมได้ เราก็ข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามโรงแรม ก็เห็น Lo Wu ตั้งตระหง่าน

ผมเดินคิดอะไรเพลินๆ เผลอแวบเดียวมาถึงทางเข้าแล้วทางเข้า ก็เป็นร้านขายยา ก็ไม่วายที่จะเป็นยาปลอมอีกนั่นแหละ รึป่าว อันนี้ก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่ใช่หมอ แต่เท่าที่ไกด์คราวที่แล้วบอกมา ก็พอจะรู้ว่าถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยว อีอาจจะหลอกเราได้ จงระวัง

ด้านหลัง ยังมีกรุ๊ปอื่นเดินตามมาด้วย แต่ด้วยเรามาเช้าเกินไป 9.30 น. ร้านรวงยังไม่เปิดมาก มีแต่ ร้านทำเล็บที่เรียกเราเข้าไปใช้บริการเคยเห็นในหนังจีนมั๊ย เวลาเดินผ่านหอคณิการ์ ก็จะมีคนมากวักมือเรียกอย่างในหนังเลยแหละ

เราเดินไปเดินมา จนคนอื่นตามไม่ทัน 555 แล้วพี่ผมก็ประเดิม ด้วยการซื้อเสื้อ ไปหนึ่งตัว 60 หยวน ห้ามต่อ เพราะว่าเช้าอยู่!!!แล้วเราก็เดินไปหาร้านกระเป๋า เพื่อจัดซื้อของตามที่แม่สั่งมา

เอาไว้มาดูว่าแม่จะได้อะไรกลับไปนะ

Monday, July 17, 2006

-->ขอเบรกหน่อย<--

ขออภัยเหอะ ที่หายหน้าหายตาไปจาก blog ของตัวเอง
ไม่แก้ตัวหรอกว่า หาเวลาไม่ได้
ช่วงนี้ มีงานหลายอย่าง
เพิ่งจะเสร็จสิ้นจากงานแต่งงาน ของพี่สาว โดยที่ผมก็ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องอะไรเลย เป็นแค่เด็กเสริฟน้ำ กับเด็กเดินถือตะเกียงเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องกลับบ้านไป สองศุกร์ หายจากห้องเรียนวิชาของ อ.ภูรี กลับมาก็ต้องปั่นการบ้านส่งยิก
แถมช่วงนี้ยังจะต้อง ปั่นงานส่งอ.ธาตรีอีก ซึ่งวิชานี้มีแวว จะยาวไปอีกนาน.......
แถมเป็นครั้งแรกที่รับงาน TA ของพี่ป้อง มาโซโล่ อีก ท้าทายไปอีกแบบนึง
เทอมนี้ออกแนวขี้เกียจครับพี่น้อง
ยังไงก็จะเขียนให้จบครับ สาบาน